บ้านโมเดิร์นหลังเล็ก ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ งบ 4.2 แสนบาท

“การมีบ้านอยู่อาศัย” เป็นอีกหนึ่งความสุขพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ โดยที่บ้านหลังนั้นไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ หรือสร้างมาด้วยสไตล์ที่นิยม สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับการนำเสนอแบบบ้าน วันนี้ได้นำแนวทางการสร้างบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นมาฝาก ซึ่งจะสวยงามเพียงใด เชิญติดตามรับชมได้เลยค่ะ

บ้านหลังนี้รองรับครอบครัวขนาดเล็ก ตัวบ้านที่มีเพียงชั้นเดียวถูกแต่งด้วยสีเทาที่มีเสน่ห์ ฟังก์ชันของบ้าน 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว ห้องรับแขก และที่จอดรถ ใช้งบก่อสร้าง 420,000 บาท โดยราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ และต่อเติมครัวเพิ่มเติม ซึ่งหากรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท

ลักษณะภายนอกของบ้าน เริ่มจากหลังคาที่ออกแบบให้เป็นทรงเพิงแหงนลาดเอียงไปด้านหลัง และมุงด้วยเมทัลชีท ตรงชายคามีฝ้าประดับไว้แล้ว ผนังบ้านที่ฉาบเรียบไว้ ตกแต่งด้วยสีเทาล้วน ซึ่งผนังใต้ชายคาเป็นไม้ฝาเฌอร่าและมีช่องลมระบายอากาศ ประตูใหญ่หน้าบ้านและหน้าต่าง เลือกใช้เป็นบานกระจกที่เปิดใช้งานง่าย โดยดีไซน์ขอบให้เป็นสีขาวเด่น

เฉลียงเล็กๆหน้าบ้าน ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล รอบๆถูกกั้นด้วยเหล็กดัดสีดำ เสาโชว์หน้าบ้านมีลูกเล่นเป็นกระเบื้องลายหิน พร้อมถูกประดับโคมไฟไว้ด้านบน ส่วนโรงจอดรถด้านข้าง มีหลังคาเป็นทรงเพิงแหงนยกสูง จุดนี้ไม่มีฝ้า แต่ที่พื้นได้เทคอนกรีตและฉาบเรียบไว้เป็นอย่างดี

ภายในบ้าน มีห้องครัวกว้างที่สว่างและน่าเข้าใช้งาน พื้นห้องนี้ปูทับด้วยกระเบื้องที่มีฐานเป็นสีขาวและลวดลายเป็นสีดำ ผนังสีขาวที่ฉาบเรียบบไว้ ตกแต่งฐานล่างด้วยสีเทา เคาน์เตอร์ครัวตรงมุมห้อง มีซิงค์ล้างจานแบบสองช่อง ที่ผนังมีหน้าต่างประดับไว้พร้อมเครื่องดูดควันไฟ

ห้องน้ำ เป็นห้องใหญ่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว พื้นห้องปูกันลื่นด้วยกระเบื้องโทนสีเทา ส่วนผนังใช้เป็นกระเบื้องสีขาวที่เสริมด้วยสีเทา ห้องนี้แบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจนโดยการก่อผนังกั้น พร้อมทั้งติดตั้งสุขภัณฑ์การใช้งานที่ครบครัน

จบไปแล้วนะคะกับแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ ที่สร้างและออกแบบเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะชอบ และได้ไอเดียดีๆไปใช้ในการออกแบบและสร้างบ้านของตน สำหรับใครที่จะนำไปใช้เป็นแบบอย่าง งบประมาณในการสร้างอาจจะเปลี่ยนแปลงจากที่เรานำเสนอ ขึ้นอยู่กับค่าวัสดุและค่าระยะทางในเขตพื้นที่ก่อสร้างด้วยค่ะ

ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก สุดารัตน์ มุทาพร